สวัสดีค่า พี่ชื่อฟ้านะคะ จบ ม.ปลายจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ปัจจุบันเรียนอยู่คณะทันตแพทย์ จุฬาค่ะ
เทคนิคการสอบติดของพี่ก็ไม่มีอะไรมากเลย สิ่งสำคัญคือความตั้งใจจริงของเรา ถ้าเรามีเป้าหมายที่ชัดเจน มีความมุ่งมั่น พี่เชื่อว่าถ้าน้องพยายามอย่างเต็มที่ ไม่ว่าคณะที่ฝันจะเป็นคณะอะไร ก็สามารถไปได้ถึงฝันแน่นอนค่ะ
แต่สำหรับน้องๆที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองอยากจะเป็นอะไร ก็อย่าเพิ่งท้อใจไปนะคะ ลองค้นหาตัวเองดู อย่างเช่น ลองไปดูงานโอเพนเฮ้าส์ของแต่ละคณะของมหาวิทยาลัยต่างๆ ว่าแต่ละคณะเนี่ย เค้าเรียนอะไรกัน แล้วเรามีความสนใจในสิ่งนี้มั้ย อย่างเช่นของคณะพี่ ก็จะมีโอเพ่นเฮ้าส์เหมือนกันค่ะ จะมีฐานให้น้องๆได้ดูได้ชมกัน ซึ่งแต่ละฐานจะเป็นเนื้อหาที่พี่ต้องเรียนในคณะจริงๆด้วย เช่นฐานกรอฟัน อุดฟัน ดัดลวด หาฟันผุ ตอนมัธยมพี่ก็ได้มาเดินดูงานโอเพนเฮ้าส์ของจุฬาเหมือนกัน ทำให้รู้สึกสนใจคณะนี้ขึ้นมาด้วย
สำหรับพี่ พอรู้ตัวเองว่าอยากจะเข้าคณะทันตแพทย์ จุฬา ก็ตั้งใจเตรียมตัวตั้งแต่ม.5 ค่ะ โดยแพลนไว้ว่า ต้องเก็บเนื้อหาให้ครบทุกวิชาภายในปิดเทอมก่อนขึ้นม.6 เพื่อที่จะได้ฝึกทำโจทย์ข้อสอบเก่าแบบไม่ต้องแอบเปิดหนังสือ พอเห็นภาพรวมแล้ว ก็วางแผนการอ่านหนังสือและเรียนพิเศษแต่ละวันค่ะ
Q: อ่านหนังสือทุกวันมั้ย วันละกี่ชั่วโมง?
อ่านหนังสือทุกวันค่ะ แต่ละวันก็จะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับว่าขี้เกียจมั้ย(ผิด) ขึ้นกับว่าวันนั้นว่างแค่ไหน ซึ่งอันนี้เราต้องจัดการเวลาให้ดีเลยค่ะ ส่วนตัวพี่เป็นคนที่ไม่ค่อยฟิกเวลาอ่านหนังสือเท่าไหร่ พี่จะให้ความสำคัญกับปริมาณมากกว่า อย่างเช่น เราจะต้องอ่านให้จบบทนึงแล้วถึงจะพักได้ แล้วค่อยมาอ่านต่ออีกบทนึง แล้วค่อยพัก แต่ปริมาณที่มากก็ไม่ได้ดีเสมอไป ถ้าเราไม่ตั้งใจกับมัน เนื้อหาที่อ่านไปผ่านๆก็จะไม่มีประโยชน์เลย ดังนั้นในการอ่านหนังสือทุกครั้ง เราควรโฟกัสกับมันให้เต็มที่ เพื่อไม่ให้เสียเวลาอ่านใหม่อีกรอบค่ะ
Q: พักแค่ไหนถึงจะพอ?
กำหนดเวลาให้ตัวเองค่ะ อย่างเช่น สัญญากับตัวเองว่าเล่นเกมซัก 15 นาที แล้วไปอ่านต่อนะ ตรงนี้เราต้องมีวินัยกับตัวเองมากๆ เพราะถ้าเราผิดสัญญา ก็จะทำให้อ่านหนังสือได้ไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ ถ้าเราเป็นแบบนี้ทุกวัน ก็จะกลายเป็นดินพอกหางหมู มีเนื้อหาที่ต้องอ่านค้างไปเรื่อยๆ จนจะอ่านไม่ทันเอานะคะ
Tip: พี่เป็นคนที่บ้านไกลจากที่เรียน ซึ่งจะเสียเวลาในการเดินทางเยอะมาก พี่ก็จะใช้เวลาตรงนี้ อ่านหนังสือค่ะ เช่น ขึ้นรถไฟฟ้า 30 นาที ก็จะหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน ถึงจะเป็นเวลาสั้นๆก็มีประโยชน์มากถ้าเราสามารถโฟกัสกับมันได้อย่างเต็มที่ ลองทำแล้วดูว่า ในช่วงเวลาสั้นๆเนี่ย เราอ่านหนังสือไปได้กี่หน้า ถ้าวันไหนพี่อ่านได้มากกว่าเป้าที่ตั้งไว้ พี่จะพราวด์มากเลยค่ะ
Q: เรียนพิเศษสำคัญมั้ย?
จริงๆเรียนเรื่องพิเศษขึ้นอยู่กับแต่ละคนมากกว่าค่ะ แต่สำหรับตัวพี่เองคิดว่าการเรียนพิเศษช่วยเติมเราในจุดที่อ่อนได้มากเลย บางเรื่องถ้าต้องอ่านหนังสือเองอาจจะต้องใช้เวลามาก การเรียนพิเศษจึงเป็นการประหยัดเวลาอย่างหนึ่งค่ะ เมื่อเราเรียนพิเศษควบคู่กับการอ่านหนังสือและทำแบบฝึกหัดด้วยตนเองแล้ว ก็จะทำให้การอ่านหนังสือของเรา มีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ
เตือน! อย่าเรียนพิเศษเยอะเกินไปจนไม่มีเวลาทบทวนบทเรียน
สำหรับใครที่สนุกกับการเรียนพิเศษ อย่าลืมนะคะว่า การเรียนของเราจะไม่มีประโยชน์เลย ถ้าเราไม่หมั่นทบทวนอยู่เสมอ เนื่องจากสมองของเราจะเปลี่ยนความจำระยะสั้นให้เป็นระยะยาวได้ด้วยการทำซ้ำๆค่ะ วิธีที่ง่ายที่สุดคือ ทบทวนบทเรียนที่เรียนในวันนั้นทุกวัน เพื่อที่จะได้ทำความเข้าใจและไขข้อสงสัยได้เร็วที่สุดค่ะ
นอกจากนี้ สิ่งแวดล้อมและกำลังใจจากคนรอบตัวเป็นสิ่งสำคัญมากค่ะ คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังอ่านอยู่ เป็นกำลังใจที่สำคัญของน้องๆเลยค่ะ ลองถามน้องดูว่าวันนี้เป็นยังไงบ้าง หรือซื้อขนมอร่อยๆให้ แค่นี้กำลังใจน้องๆก็เต็มเปี่ยมแล้วค่ะ
สุดท้ายขอฝากถึงน้องๆว่า ช่วงนี้ก็เหนื่อยหน่อยน้า แต่ถ้าพยายามทำตามฝันสำเร็จแล้ว เราจะลืมความเหนื่อยนี้ไปหมดเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้น้องๆทุกคนที่กำลังจะสอบนะคะ
Where there’s a will, there’s a way ! ความพยายามอยูที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่นค่ะ